ห้องเรียนที่ 5 พืชที่ศึกษา พวงคราม
ชื่อไทย พวงคราม
ชื่ออื่น ๆ พวงม่วง ช่อม่วง
ชื่อสามัญ Sandpaper Vine , Purple Wreath,
ชื่อวิทยาศาสตร์ Petrea Volubilis L.
วงศ์ VERBENACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดหมู่เกาะเวสต์อินดีส บราซิล อเมริกากลางและแถบทะเลคาริบเบียน
การขยายพันธุ์ เมล็ด ตอนกิ่ง
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ แข็งแรง เลื้อยแบบพาดพัน สามารถเลื้อย ไปได้ไกล เนื้อไม้แข็ง เถาอ่อนหรือยอดอ่อนมีขนปกคลุม ขึ้นได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ ทนต่อความแห้งแล้ง เป็นไม้เถาที่มีอายุยืนนาน
เปลือก สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทาอมขาว เรียบไม่แตกสะเก็ด มีรูหายใจแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป
ใบ ใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงกันข้าม แต่ละคู่ออกเรียงสลับ รูปรีหรือแกมขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนาและแข็งสากระคายมือ คล้ายกระดาษทราย ผิวใบด้านหลังใบสีเขียวเข้ม เส้นแขนงใบสานเป็นตาข่ายถี่ละเอียด ท้องใบสีอ่อนกว่า กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 13-15 เซนติเมตร ก้านใบยาว 0.6-0.8 เซนติเมตร
ดอก สีม่วงครามหรือม่วงเข้ม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบใกล้ปลายเถา ช่อดอกยาว 15-25 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงหรือใบประดับสีม่วงอ่อน โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดตื้น ๆ ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก รูปขอบขนาน ปลายมน กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 1.3-1.8 เซนติเมตร ด้านบนของกลีบมีขนอ่อน ๆ กลีบดอกสีม่วงเข้มหรือสีคราม โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ รูปขอบขนาน ปลายมน กว้าง 0.4-0.5 เซนติเมตร ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร กลีบดอกกลีบหนึ่งมีสีขาวแต้มที่โคนกลีบ เกสรเพศผู้ 4 อัน ดอกบานเต็มที่กว้าง 3.0-3.5 เซนติเมตร มักจะออกดอกและบานพร้อมกันเต็มช่อ บานทนได้หลายวัน ออกดอกเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ผล ผลขนาดเล็ก มีขนนุ่มติดอยู่ที่กลีบเลี้ยง ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด
เมล็ด รูปทรงกระบอกหรือรูปไข่กลับสีน้ำตาล กว้าง 0.2-0.3 เซนติเมตร ยาว 0.5-0.7 เซนติเมตร
ประโยชน์ ปลูก เป็นไม้ดอกไม้ประดับให้เลื้อยพาดพันใบตามซุ่มหรือค้าง เมื่อออกดอกดอกจะบานพร้อมกัน มองเห็นเป็นสีม่วงหรือสีคราม เต็มพุ่มต้น
ชื่ออื่น ๆ พวงม่วง ช่อม่วง
ชื่อสามัญ Sandpaper Vine , Purple Wreath,
ชื่อวิทยาศาสตร์ Petrea Volubilis L.
วงศ์ VERBENACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดหมู่เกาะเวสต์อินดีส บราซิล อเมริกากลางและแถบทะเลคาริบเบียน
การขยายพันธุ์ เมล็ด ตอนกิ่ง
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดใหญ่ แข็งแรง เลื้อยแบบพาดพัน สามารถเลื้อย ไปได้ไกล เนื้อไม้แข็ง เถาอ่อนหรือยอดอ่อนมีขนปกคลุม ขึ้นได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ ทนต่อความแห้งแล้ง เป็นไม้เถาที่มีอายุยืนนาน
เปลือก สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทาอมขาว เรียบไม่แตกสะเก็ด มีรูหายใจแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป
ใบ ใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงกันข้าม แต่ละคู่ออกเรียงสลับ รูปรีหรือแกมขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนาและแข็งสากระคายมือ คล้ายกระดาษทราย ผิวใบด้านหลังใบสีเขียวเข้ม เส้นแขนงใบสานเป็นตาข่ายถี่ละเอียด ท้องใบสีอ่อนกว่า กว้าง 5-8 เซนติเมตร ยาว 13-15 เซนติเมตร ก้านใบยาว 0.6-0.8 เซนติเมตร
ดอก สีม่วงครามหรือม่วงเข้ม ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะตามซอกใบใกล้ปลายเถา ช่อดอกยาว 15-25 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงหรือใบประดับสีม่วงอ่อน โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดตื้น ๆ ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก รูปขอบขนาน ปลายมน กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 1.3-1.8 เซนติเมตร ด้านบนของกลีบมีขนอ่อน ๆ กลีบดอกสีม่วงเข้มหรือสีคราม โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ รูปขอบขนาน ปลายมน กว้าง 0.4-0.5 เซนติเมตร ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร กลีบดอกกลีบหนึ่งมีสีขาวแต้มที่โคนกลีบ เกสรเพศผู้ 4 อัน ดอกบานเต็มที่กว้าง 3.0-3.5 เซนติเมตร มักจะออกดอกและบานพร้อมกันเต็มช่อ บานทนได้หลายวัน ออกดอกเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ผล ผลขนาดเล็ก มีขนนุ่มติดอยู่ที่กลีบเลี้ยง ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด
เมล็ด รูปทรงกระบอกหรือรูปไข่กลับสีน้ำตาล กว้าง 0.2-0.3 เซนติเมตร ยาว 0.5-0.7 เซนติเมตร
ประโยชน์ ปลูก เป็นไม้ดอกไม้ประดับให้เลื้อยพาดพันใบตามซุ่มหรือค้าง เมื่อออกดอกดอกจะบานพร้อมกัน มองเห็นเป็นสีม่วงหรือสีคราม เต็มพุ่มต้น