โหระพา |
ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ชื่อสามัญ Basil , Sweet Basil ,Thai Basil
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum basilicum Linn. วงศ์ LABIATAE ชื่อท้องถิ่น ก้อมก้อ ภาคเหนือ-ภาคอีสาน นางพญาร้อยชู้ โหระพาไทย โหระพาเทศ ห่อกวยซวย ห่อวอซุ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) อิ่มคิมขาว (ฉาน-แม่ฮ่องสอน) ถิ่นกำเนิด แถบเอเชียและแอฟริกา ลักษณะทั่วไป พืชล้มลุกลำต้นมีขนาดเล็ก มีลักาณะหรือลักษณะพิเศษคือ เป็นพืชที่สามารถมีอายุได้หลายฤดูกาล การขยายพันธุ์ สามารถทำได้ 3 วิธี การหว่านเมล็ด การย้ายพันธุ์กล้าหลังการหว่านเมล็ด และการปักชำกิ่ง แต่ที่นิยม คือการหว่านเมล็ด และการย้ายพันธ์ุกล้า |
ลำต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 40-60 ซม. ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม แก่นด้านในเป็นไม้เนื้ออ่อน ผิวลำต้นอ่อนหรือกิ่งอ่อนมีสีม่วงแดง ลำต้นแตกกิ่งตั้งแต่ระดับต่ำของลำต้นจนแลดูเป็นทรงพุ่ม กิ่งแตกออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน
|
ใบ ใบโหระพาออกเป็นใบเดี่ยว แทงออกบริเวณข้อของกิ่ง ใบมีรูปไข่ คล้ายใบกะเพรา ใบมีสีเขียวเข้มหรือม่วงแดงหรือเขียวอมม่วง กว้างประมาณ 3-4 ซม. ยาวประมาณ 6 ซม. โคนใบมน ใบปลายแหลม แผ่นใบเรียบ และค่อนข้างเป็นมัน ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย มีเส้นใบมองเห็นชัดเจน ใบไม่มีขน ใบมีน้ำมันหอมระเหยทำให้มีกลิ่นหอมดอก
|
ดอก ดอกโหระพาออกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อออกดอกเรียงเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นมีประมาณ 6-8 ดอก ดอกมีสีขาวอมแดงม่วง ภายในมีเกสรตัวผู้ 4 อัน
เมล็ด เมล็ดใน 1 ดอก จะมีประมาณ 3-4 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะคล้ายหยดน้ำตา มีสีน้ำตาลเข้ม ขนาดเมล็ดประมาณ 1 มิลลิเมตร เมล็ดโหระพามีเมือกหุ้มเมล็ด หากนำมาแช่น้ำเมือกจะพองตัวออกคล้ายเมล็ดแมงลัก
|
ประโยชน์โหระพา
1. ใบสดนิยมนำมารับประทานเป็นผักคู่กับอาหารจำพวกลาบ ซุปหน่อไม้ และก๋วยเตี๋ยว
2. ใบนิยมใช้ประกอบอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอม เช่น แกงผัด ผัดเผ็ด เป็นต้น
3. ใบนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย
4. น้ำมันโหระพาถูกนำมาใช้มากในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ใช้แต่งกลิ่นลูกกวาด น้ำสลัด และเครื่องดื่ม
5. น้ำมันโหระพาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง อาทิ สบู่ และน้ำหอม เป็นต้น
2. ใบนิยมใช้ประกอบอาหารเพื่อให้มีกลิ่นหอม เช่น แกงผัด ผัดเผ็ด เป็นต้น
3. ใบนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย
4. น้ำมันโหระพาถูกนำมาใช้มากในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ใช้แต่งกลิ่นลูกกวาด น้ำสลัด และเครื่องดื่ม
5. น้ำมันโหระพาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง อาทิ สบู่ และน้ำหอม เป็นต้น