ห้องเรียนที่ 1 พืชที่ศึกษา นมแมว
ชื่อไทย นมแมว
ชื่ออื่น ๆ -
ชื่อสามัญ -
ชื่อวิทยาศาสตร์ Rauwenhoffia siamensis Scheff.
วงศ์ ANNONACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดประเทศไทย พบได้ทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และ ป่าละเมาะทั่วทุกภาค
การขยายพันธุ์ การตอน เมล็ด
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เลื้อยหรือรอเลื้อย สามารถเลื้อยพาดพิงสิ่งอื่นๆ ไปได้ไกล 3-5 เมตร หรือตั้งเป็นพุ่มเองได้ โดยอาศัยการพันเกี่ยวและพยุงของกิ่งก้านได้สูง .50-1.0 เซนติเมตร เนื้อไม้แข็ง ทนความแห้งแล้งและน้ำท่วมได้ดี เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงรำไรหรือร่มเงาไม้ใหญ่และที่ที่มีแสงแดดจัดได้ ทรงพุ่มแน่นทึบ อายุยืน
เปลือก เรียบสีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อเปลือกบาง แต่เนื้อไม้แข็งและเหนียวมาก
ใบ ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปขอบขนานหรือแกมรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนาและเรียบ หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นแขนงใบเล็กไม่ชัดเจน กว้าง 2.5-4.0 เซนติเมตร ยาว 10.0-15.0 เซนติเมตร ก้านใบยาว 0.6-1.0 เซนติเมตร
ดอก ดอกเดี่ยว สีเหลือง ส่งกลิ่นหอมในเวลาเย็น ออกตามกิ่งก้าน ตามง่ามใบ มีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ สีเขียวอ่อน โคนป้อมกลมปลายแหลมกว้าง 0.3-0.5 เซนติเมตร ยาว 0.8-1.0 เซนติเมตร กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบออกสับหว่างกัน สีเหลืองนวลหนา โคนกลีบกว้าง 1.0-1.5 เซนติเมตร ปลายกลีบเรียวแหลม ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร กลีบชั้นนอกมีขนาดใหญ่กว่ากลีบชั้นใน ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2.0 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี
ผล ผลกลุ่ม ผลย่อยรูปทรงกลมหรือรูปไข่กว้าง 0.5-0.8 เซนติเมตร ยาว 0.6-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน เปลือกนิ่ม เมล็ดขนาดเล็กสีดำหรือม่วงเข้ม
ประโยชน์ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับสวน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า ไม่กินพื้นที่ปลูก ไม่ต้องตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มเตี้ยแจ้ หรือเลื้อยไปไม่ไกล ไม่รกพื้นที่ เมื่อออกดอกจะส่งกลิ่นหอมเย็นเป็นเสน่ห์ในสวน ดอกนมแมวมีน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่น เนื้อไม้และรากต้มน้ำดื่มแก้ไข้กลับไข้ซ้ำ
ชื่ออื่น ๆ -
ชื่อสามัญ -
ชื่อวิทยาศาสตร์ Rauwenhoffia siamensis Scheff.
วงศ์ ANNONACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดประเทศไทย พบได้ทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และ ป่าละเมาะทั่วทุกภาค
การขยายพันธุ์ การตอน เมล็ด
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้เลื้อยหรือรอเลื้อย สามารถเลื้อยพาดพิงสิ่งอื่นๆ ไปได้ไกล 3-5 เมตร หรือตั้งเป็นพุ่มเองได้ โดยอาศัยการพันเกี่ยวและพยุงของกิ่งก้านได้สูง .50-1.0 เซนติเมตร เนื้อไม้แข็ง ทนความแห้งแล้งและน้ำท่วมได้ดี เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงรำไรหรือร่มเงาไม้ใหญ่และที่ที่มีแสงแดดจัดได้ ทรงพุ่มแน่นทึบ อายุยืน
เปลือก เรียบสีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อเปลือกบาง แต่เนื้อไม้แข็งและเหนียวมาก
ใบ ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปขอบขนานหรือแกมรูปใบหอก ปลายใบเรียวแหลม โคนมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนาและเรียบ หลังใบสีเขียวเข้มเป็นมัน เส้นแขนงใบเล็กไม่ชัดเจน กว้าง 2.5-4.0 เซนติเมตร ยาว 10.0-15.0 เซนติเมตร ก้านใบยาว 0.6-1.0 เซนติเมตร
ดอก ดอกเดี่ยว สีเหลือง ส่งกลิ่นหอมในเวลาเย็น ออกตามกิ่งก้าน ตามง่ามใบ มีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ สีเขียวอ่อน โคนป้อมกลมปลายแหลมกว้าง 0.3-0.5 เซนติเมตร ยาว 0.8-1.0 เซนติเมตร กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบออกสับหว่างกัน สีเหลืองนวลหนา โคนกลีบกว้าง 1.0-1.5 เซนติเมตร ปลายกลีบเรียวแหลม ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร กลีบชั้นนอกมีขนาดใหญ่กว่ากลีบชั้นใน ดอกบานเต็มที่กว้าง 1.5-2.0 เซนติเมตร ออกดอกตลอดปี
ผล ผลกลุ่ม ผลย่อยรูปทรงกลมหรือรูปไข่กว้าง 0.5-0.8 เซนติเมตร ยาว 0.6-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน เปลือกนิ่ม เมล็ดขนาดเล็กสีดำหรือม่วงเข้ม
ประโยชน์ นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับสวน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า ไม่กินพื้นที่ปลูก ไม่ต้องตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มเตี้ยแจ้ หรือเลื้อยไปไม่ไกล ไม่รกพื้นที่ เมื่อออกดอกจะส่งกลิ่นหอมเย็นเป็นเสน่ห์ในสวน ดอกนมแมวมีน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่น เนื้อไม้และรากต้มน้ำดื่มแก้ไข้กลับไข้ซ้ำ